โครเอเชีย (4-3-3) : โดมินิค ลิวาโควิช (ดินาโม ซาเกร็บ) - โยซิป ยูราโนวิช (เซลติก), เดยัน ลอฟเรน (เซนิต), ยอสโก้ กวาร์ดิโอล (ไลป์ซิก), บอร์น่า โซซ่า (สตุตการ์ท) - มาร์เซโล่ โบรโซวิช (อินเตอร์ มิลาน), ลูก้า โมดริช (เรอัล มาดริด), มาเตโอ โควาซิช (เชลซี) - อันเดรย์ ครามาริช (ฮอฟเฟนไฮม์), บรูโน่ เพ็ตโควิช (ดินาโม ซาเกร็บ), อิวาน เปริซิช (สเปอร์ส)

บราซิล (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน (แมนฯ ซิตี) - เอแดร์ มิลิเตา (เรอัล มาดริด), มาร์กินญอส (เปแอสเช), ติอาโก้ ซิลวา (เชลซี), ดานิโล่ (ยูเวนตุส) - คาเซมิโร่ (แมนฯยูไนเต็ด), ลูคัส ปาเกต้า (เวสต์แฮม) -  ราฟินญ่า (บาร์เซโลน่า), เนย์มาร์ (เปแอสเช), วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด) - ริชาร์ลิซอน (สเปอร์ส)

ทรรศนะ
          ต้องยอมรับว่า "แซมบ้า" บราซิล ยังไงก็เหนือกว่า ขุมพลังระดับสตาร์ ฟอร์มการเล่นที่เหลือล้น นัดล่าสุดตัดเชือกกับเกาหลีใต้ก็เห็นกันแล้วว่ามันเหลือๆจริงๆ แล้วยิ่งไปเทียบกับ "ตราหมากรุก" โครเอเชีย ซึ่งผลงานยังไม่ค่อยเข้าตาสักเท่าไหร่ ดูจืดๆชืดๆไม่น้อย ทั้งเสมอโมร็อกโก 0-0 ทั้งเสมอเบลเยี่ยม 0-0 หรือล่าสุดกับญี่ปุ่น 1-1 ก่อนเฉือนชนะด้วยจุดโทษ แต่ด้วยแฮนดิแคปฝั่งบราซิลก็เหลือเกิ๊น เพราะมองว่าโครเอเชียยังเป็นทีมมีชื่อมีระบบ จะเจาะก็ยากหน่อย เชื่อว่าโครเอเชียยังสู้ได้ครับ สุดทางที่แพ้ถาก

โครเอเชีย ดวลเดือด
สกอร์ที่คาด โครเอเชีย แพ้แค่ 1-2