เยอรมนี (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ (บาเยิร์น มิวนิค) - โยชัว คิมมิช (บาเยิร์น มิวนิค), โยนาธาน ทาห์ (เลเวอร์คูเซ่น), อันโตนิโอ รือดิเกอร์ (เรอัล มาดริด), มักซิมิเลี่ยน มิตเทิลชตัดท์ (สตุ๊ตการ์ท) - โทนี่ โครส (เรอัล มาดริด), โรเบิร์ต อันดริช (เลเวอร์คูเซ่น) - จามาล มูเซียล่า (บาเยิร์น มิวนิค), อิลคาย กึนโดอัน (บาร์เซโลน่า), โฟลเรียน เวียร์ตซ์ (เลเวอร์คูเซ่น) - ไค ฮาแวร์ตซ์ (อาร์เซน่อล)

สวิตเซอร์แลนด์ (3-4-3) : ยานน์ ซอมเมอร์ (อินเตอร์ มิลาน) - ฟาเบียน แชร์ (นิวคาสเซิล), มานูเอล อคานจี (แมนฯ ซิตี้), ริคาร์โด้ โรดริเกวซ (โตริโน่) - ซิลวาน วิดเมอร์ (ไมนซ์), เรโม่ ฟรอยเลอร์ (โบโลญญ่า), กรานิต ชาก้า (เลเวอร์คูเซ่น), มิเชล เอบีเชอร์ (โบโลญญ่า) - ดาน เอ็นดอย (โบโลญญ่า, แชร์ดาน ชากิรี่ (ชิคาโก้ ไฟร์), รูเบน วาร์กาส (เอาก์สบวร์ก)

ทรรศนะ
          "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี แกร่งสมราคาเจ้าภาพและตัวเต็งแชมป์ ผลงาน 2 นัดยูโร กดเต็มๆ 6 คะแนนชิลๆ สก็อตแลนด์ 5-1 ฮังการี 2-0 เรียกว่ายิงถล่มยับเลย หรือเอาจริงๆย้อนไปอุ่นเครื่องก็เห็นแนวรุกเยอรมนีเปิดโหมดกดคู่แข่งนัดละ 2 เม็ดตลอด ฝรั่งเศส 2-0 เนเธอร์แลนด์ 2-1 กรีซ 2-1 ทว่าประเด็นคือพี่แกเข้ารอบแล้วแน่ๆ เชื่อว่าคงลดราวาศอกในเกมนี้ เข้าทาง "แดนนาฬิกา" สวิตเซอร์แลนด์ ที่พร้อมจะเมคชัวร์ไว้ก่อน พร้อมกับรักษาโมเมนตั้มไปด้วย ซึ่งประสบการณ์และฝีเท้าสวิตฯไม่ใช่ไก่กา เชื่อว่าจะสู้เยอรมนีที่ผ่อนคันเร่งได้ในตอนท้าย

สวิตเซอร์แลนด์ ยันเสมอ
สกอร์ที่คาด เสมอ 1-1