เดนมาร์ก (3-5-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล (อันเดอร์เลชท์) - โยอาคิม อันเดอร์เซ่น (คริสตัล พาเลซ), อันเดรียส คริสเตนเซ่น (บาร์เซโลน่า), ยานนิค เวสเตอร์การ์ด (เลสเตอร์) - โยอาคิม เมห์เล่ (โวลฟ์สบวร์ก), คริสเตียน นอร์การ์ด (เบรนท์ฟอร์ด), คริสเตียน เอริคเซ่น (แมนฯ ยูไนเต็ด), ปิแอร์ ฮอยเบียร์ (สเปอร์ส), วิคตอร์ คริสเตนเซ่น (โบโลญญ่า) - ราสมุส ฮอยลุนด์ (แมนฯ ยูไนเต็ด), ยุสซุฟ โพลเซ่น (แอร์เบ ไลป์ซิก)

อังกฤษ (4-2-3-1) : จอร์แดน พิคฟอร์ด (เอฟเวอร์ตัน) - ไคล์ วอล์คเกอร์ (แมนฯ ซิตี้), จอห์น สโตนส์ (แมนฯ ซิตี้), มาร์ก เกฮี (คริสตัล พาเลซ), คีร์แรน ทริปเปียร์ (นิวคาสเซิ่ล) - เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล), ดีแคลน ไรซ์ (อาร์เซน่อล) - บูคาโย่ ซาก้า (อาร์เซน่อล), จู๊ด เบลลิ่งแฮม (เรอัล มาดริด), ฟิล โฟเด้น (แมนฯ ซิตี้) - แฮร์รี่ เคน (บาเยิร์น มิวนิค)

ทรรศนะ
          ยังเชียร์ "โคนม" เดนมาร์ก ถึงจะทำได้ดีสุดแค่เสมอกับสโลวีเนีย 1-1 ทว่ารูปเกมแอบดีกว่า คุมเกมได้เยอะเพียงแค่ต้องทำการบ้านพื้นที่สุดท้ายสักนิด อีกอย่างดู "สิงโตคำราม" อังกฤษ ก็เฉยๆด้วยแหละ เครื่องยนต์พลังแรงแต่ทำทีมกันออกมาไม่ค่อยดุดันเท่าที่ควร กลายเป็นบอลเน้นผลซะงั้น ล่าสุดชนะมาก็จริงๆเหนือเซอร์เบีย 1-0 ขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 13 แต่หลังจากนั้นคือไม่น่าสนใจไรเลย จืดๆอึดอัดมากๆ ปั้นเกมก็ยากเย็น จะหาจังหวะจบแต่ล่ะทีก็เหนื่อยๆ ดูแล้วเดนมาร์กตั้งขบวนดีๆมียันได้

เดนมาร์ก ปักหลักสู้
สกอร์ที่คาด เสมอ 1-1