อาร์เซน่อล : “ช่วงเวลาสำคัญ”
อาร์เซน่อล กับอันดับ 15 ในลีก ก็คงไม่มีใครรับได้อยู่แล้ว เพราะตามหลักความเป็นจริง อาร์เซน่อลคือตัวเต็งลุ้น TOP 4 ของพรีเมียร์ลีก
มีแค่ 14 คะแนน ห่างจากพื้นที่ 4 อันดับแรก ที่มีสิทธิ์ลงเล่น UCL ถึง 10 คะแนน
จะว่าไปก็ยังมีพอโอกาสไล่ เพราะยังมีคิวเตะอีกยาวๆถึง 25 นัดให้ลุ้น แต่ประเด็นคืออาร์เซน่อลจะเริ่มไล่กวดจริงๆจังๆตอนไหน!?
ย้อนความไปช่วง 2 นัดแรกของฤดูกาล อาร์เซน่อลมีความหวังเต็มเปี่ยม ก็เล่นซัดชัย 100% เก็บ 6 คะแนนเข้าประเป๋า
หลังจากนั้น 4 เกมถัดมา ก็มีสะดุดไปบ้างในเกมใหญ่ๆ ไม่ว่าจะแพ้ลิเวอร์พูล แพ้แมนฯซิตี้ ซึ่งล้วนอยู่ในข่ายที่พอรับได้ ไม่เว้นแม้กระทั่งความพ่ายแพ้ต่อเลสเตอร์ซิตี้ก็ตาม
ซึ่งอาจจะมีความกดดันจากแฟนๆบ้าง แต่ลึกๆแล้วพวกเขาก็ยังดูไม่หมดความหวังซะทีเดียว ยิ่งนัดถัดมาดันบุกชนะแมนฯยูไนเต็ด 1-0 ด้วย
แต่พอ 6 นัดลีกต่อจากนั้น อาร์เซน่อลเล่นเดี้ยงแบบรัวๆ ซึ่งนอกจากจะไม่ชนะเลยสักเกม ยังแพ้ถึง 4 ครั้ง
จริงๆการแพ้สเปอร์ส หรือเสมอเซาท์แธมป์ตัน(ฤดูกาลสุดพีค) ยังพอรับได้อยู่
ส่วนการแพ้วูล์ฟฯ ถามว่าสมควรไหม!! มันก็ไม่ควรนั่นล่ะ เพราะวูล์ฟฯไม่มีดาวซัลโวอย่าง ราอูล ฮิเมเนซ ตั้งแต่นาทีที่ 15
แต่อาร์เซน่อลกลับคว้าไม่ได้แม้สักแต้มเดียว แถมที่แย่ๆก็คือยังแพ้แอสตัน วิลล่า เสมอลีดส์ฯ รวมถึงแพ้เบิร์นลี่ย์
ความผิดพลาดซ้ำๆ แทนที่อาร์เซน่อลจะได้ 10 คะแนนจากเกมเหล่านี้ กลับเหลือเพียงแค่ 1 คะแนน
ซึ่งเอาจริงๆ 9 คะแนนตรงนี้ แปรเปลี่ยนสภาพให้อาร์เซน่อลจากอันดับ 15 บินขึ้นไปติดท็อป 5 ได้แบบง่ายๆเลย
และทุกอย่างยิ่งกดดันหนัก เมื่อแนวรุกแทบขาดความดุดันและเฉียบขาด เพราะ 6 นัดลีกที่ว่า พวกเขายิงได้แค่ 2 ประตู ยิ่งมาพร้อมกับประสิทธิภาพการสับไกให้เข้ากรอบแต่ล่ะเกมนั้นก็น้อยเหลือเกิน
มันยิ่งทำให้บรรยากาศของอาร์เซน่อลดูย่ำแย่ และเหมือนจะไร้ทิศทาง เสียงวิจารณ์จึงตามมาเป็นเงาและหนักขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งหลังจากนี้จะน่าสนใจมากๆ เพราะคิว 3 นัดต่อไปของอาร์เซน่อล ถือว่าหินสุดๆ
เยือน-เอฟเวอร์ตัน(พรีเมียร์ลีก), เหย้า-แมนฯซิตี้(ลีกคัพ) และ เหย้า-เชลซี(พรีเมียร์ลีก)
เอฟเวอร์ตันที่กำลังคืนฟอร์ม และตัวผู้เล่นก็กลับมาครบมือ เมื่อโทษแบนเริ่มหยุดกระหน่ำทีม
แมนฯซิตี้กับเชลซีที่ฉันใดก็ฉันนั้น พวกเขาแข็งแกร่งและพร้อมกลับสู่ฟอร์มได้ทุกเมื่อ
นี่อาจเป็น “ตัวชี้วัด” ที่ชัดเจนของมิเกล อาร์เตต้าและลูกทีม ก็ถ้าคว้าชัยทั้ง 3 นัด..มันก็จบ!! แต่ในทางปฏิบัติถือว่าแสนยากเย็นเหลือเกิน
เอาจริงๆแค่อาร์เซน่อลไม่แพ้เลยสักเกมเลย ให้เสมอหมดเลยเอ้า!! ก็ถือว่าสอบผ่านแล้ว แต่ว่าทีมเองก็ต้องมีทรง มีทิศทางในระดับนึงด้วย
อีกประเด็นที่รออาร์เซน่อลอยู่ คือฟ้าหลังฝน เพราะหลังจากคิวโหดๆ 3 นัดดังกล่าว
อาร์เซน่อลจะผ่อนคลายมากขึ้น เมื่อจะเจอแค่ไบรท์ตัน, เวสต์บรอมวิช, คริสตัล พาเลซและนิวคาสเซิ่ลในพรีเมียร์ลีก รวมถึงเอฟเอคัพกับนิวคาสเซิ่ลอีกนัด ซึ่งกินเวลาทั้งสิ้น 1 เดือนเต็มๆ
นั่นคือโอกาสดีที่มิเกล อาร์เตต้า หรือแม้แต่กุนซือใหม่(กรณีที่มีการเปลี่ยนกุนซือ) จะใช้ช่วงคิวเตะที่ไม่ได้กดดันหนัก จัดการฟื้นฟูทีม ฟื้นฟูความมั่นใจ คิดหาทางแก้ไขทีมให้ดีขึ้นอีกครั้ง
ดังนั้นโปรแกรม 3 นัดที่จะถึงก็สำคัญ แต่ต่อจากนั้นอีก 5 นัดก็สำคัญเช่นกัน ที่จะลุ้นว่าอาร์เซน่อลจะกลับมาสู่จุดที่ควรจะเป็นหรือไม่!!
|