ชัยชนะของ “แฟร้งค์ แลมพาร์ด” ที่พาเชลซีเหนือเอฟเวอร์ตัน 4-0 ที่เป็นมากกว่าชัยชนะ
ใครจะกล้าคิด!! เชลซีในจังหวะที่แดนกลางโคตรยวบ ในยามที่ไม่มีทางเลือกนัก เมื่อ ก็องเต้, จอร์จินโญ่และโควาชิซ ลงเล่นไม่ได้ ส่วนลอฟตัส ชีค ก็ยังคงต้องขอเวลาที่จะกลับมา
ขณะที่ต้องปรับขบวนกันใหม่ในเกมรับศึกเอฟเวอร์ตัน ยุคคาร์โล อันเชล็อตติ ที่กำลังมาและหวังผลได้ด้วย
ขบวนแดนกลาง กลายเป็น 3 ประสานเฉพาะกิจ เมาท์, กิลมอร์และบาร์คลี่ย์
กลายเป็นว่าเกินคาด เชลซีไม่ยวบ ไล่กด 2 ตุงตั้งแต่นาทีที่ 21 ครึ่งหลังลงมาเอฟเวอร์ตันก็ยังกู่ไม่กลับ โดนเร็วอีก ทีนี้แฟนเอฟเวอร์ตันก็แทบจะปิดทีวีหรือเปลี่ยนไปดูอย่างอื่นได้เลย ด้วยสกอร์ขาดวิ่น สิทธิ์กลับมายากแล้ว
และชื่อของ บิลลี่ กิลมอร์ ก็มาอีกระลอก ก็แหม่..เล่นเกินอายุ ทั้งที่แค่ 18 ปีเท่านั้น
ความนิ่ง ความเยือกเย็น สำคัญคือเล่นบอลง่าย แม่นยำ น้ำหนักไม่ขาดไม่เกิน กล้าเล่น กล้าพลิกบอล กล้ารับบอลในพื้นที่ยากๆ และมีความพยามจะให้บอลในเกมรุกด้วย
กระทั่งจบเกม ทำสถิติจ่ายบอลสำเร็จมากสุดในทีมที่ 74 ครั้ง..ซะงั้น!!
จะว่าไปปีนี้อาจไม่ใช่ปีทองของเชลซี ลุ้นแชมป์ไม่ขึ้น ส่วนหนึ่งอาจเพราะการซื้อขายไม่สะดวก
แต่สิ่งที่แตกต่างของเชลซีในยุคของกุนซือแฟร้งค์ แลมพาร์ด คือการค้นพบเจอดาวรุ่งลงเล่นในทีมชุดใหญ่ ซึ่งแทบไม่ค่อยเห็นในสิงห์บลูมานานแล้ว
ปีนี้ในแดนกลาง-รุก เจอเพชรดีๆมีแววเจียระไนขึ้นรูป 3 คนคือ เมาท์(21 ปี), อับราฮัม(22 ปี)และล่าสุด กิลมอร์(18 ปี)
คำนวณเป็นเม็ดเงินที่เจอของดีๆแบบนี้ ถือว่าหลายตังค์อยู่น่ะ ยิ่งเป็นยุคที่เงินค่าตัวนักเตะสูงขนชวนอึ้งด้วย
เครดิตเลยก็ต้องกุนซือ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ครับพี่น้อง!! ตำนานนักเตะที่ใจกล้ามากๆและพยายามทำในสิ่งที่เขาเชื่อมั่นอยู่เสมอๆ
|