แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ขุมกำลังที่มี!!

หลังจากปี 2019/20 ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคว้า Top 4 พรีเมียร์ลีกมาได้เป็นผลสำเร็จ หวนคืนเวทีแชมเปี้ยนส์ลีกอีกครั้ง

ฤดูกาล 2020/21 เชื่อว่าเป้าหมายย่อมต้องสูงกว่าเดิม

Top 4 ต้องให้ได้ล่ะ!! หวังเพิ่มคือลึกๆทีมจะมีลุ้นแชมป์รายการใหญ่ทั้งพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก

แต่เมื่อซีซั่น 2021/21 เริ่มต้นขึ้น ด้วยทรงที่แย่กว่าที่คาด 3 เกมลีก มีแค่ 3 แต้ม

โชว์พลังเสือกินเต่าตั้งแต่แพ้คริสตัล พาเลซ 1-3 กับโดนไบรท์ตันคุมเกมกดยับ เจียนอยู่เจียนไปสุดๆ แม้สุดท้ายจะชนะออกมาได้ 3-2 แต่แทบจะไม่เหลือสภาพ ต่อมาก็โดนสเปอร์สซัดซะเละๆเลย 1-6

ดีนะ!!ที่วันนั้นลิเวอร์พูลโดนแอสตัน วิลล่า กด 2-7 ด้วย ไม่งั้นแรงบลัฟโคตรหนักเลย

เมื่อทุกอย่างเริ่มแปลกๆจากที่คาดหวัง สุดท้ายคำถามเรื่องตัวผู้เล่น ชุดผู้เล่นก็ย่อมต้องผุด 

สิ่งที่แฟนๆผีแดงคิด มันก็มีส่วนจริง ยิ่งเมื่อเทียบกับทีมในพรีเมียร์ลีกที่อัพเกรดกันถ้วนหน้า

เอฟเวอร์ตันคว้าทั้ง ฮาเมส โรดริเกวซ , อัลลันและอับดุลลาย ดูกูเร่ กับมีกุนซือคาร์โล อันเชล็อตติ คอยบงการ จนกลายเป็นเสือติดปีกไปเลย

ลิเวอร์พูลได้ทั้ง ติอาโก้ อัลคันตาร่า กับ ดีเอโก้ โชต้า แถมทุนเดิมดีอยู่แล้ว ทั้งระบบทีมและนักเตะ

แมนฯซิตี้นี่ก็อัดแนวรับอันเป็นจุดอ่อนด้วย นาธาน อาเก้ และ รูเบน ดิอาส อีกทั้งตัวรุกอย่างเฟร์รัน ตอร์เรส อีก

เชลซีก็เสริมแบบบ้าเลือด ติโม แวร์เนอร์, ไค ฮาแวร์ตซ, เบน ชิลเวลล์, ติอาโก้ ซิลวา และ เอดูอาร์ เมนดี้

อาร์เซน่อลรึ!!ก็ไม่ได้เงียบ วิลเลี่ยน, กาเบรียล หรือดอกสุดท้ายฉีกสัญญา โธมัส ปาเตย์ จากแอตฯมาดริดเลย

ต่างจากแมนฯยูที่ไม่หวือหวา แถมมูฟออนช้าด้วยในเคสของตัวรุก เจดอน ซานโช่ ที่รู้ทั้งรู้ว่าค่าใช้จ่ายในการเซ็นต์สัญญาอย่างบานตะไท

คือไม่ใช่ว่าคนที่เข้ามา จะไม่เก่งไม่มีความสามารถ เพียงแต่ปัจจัยดูไม่โดดเด่นต้องตาต้องใจอย่างหลายๆทีม

ฟาคุนโด้ เปญิสตรี ตัวรุกอายุพึ่ง 18 ปี เขายังต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านอะไรอีกมากมาย ผ่านแรงกดดัน ต้องปรับตัว โอ๊ะ!!อีกหลายอย่าง

ดาวยิง เอดิสัน คาวานี่ เรื่องความเก๋า, ประสบการณ์และศักยภาพ มีแน่นอน แต่ปัญหาคืออายุ 33 ปี แล้วฤดูกาลล่าสุดกับเปแอสเช พี่แกเจ็บออดๆแอดๆ แทบไม่ได้ลงสนามด้วย

จะแบ็คซ้ายอย่างอเล็กซ์ เตลเลส หรือจะแดนกลางอย่าง ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค ก็แนวๆเสริม ไม่ได้กลบจุดอ่อน

เหมือนผู้เล่นที่เสริมเข้าไม่ใช่ตัวความหวัง ไม่ใช่ตัวพลิกเกม ไม่ใช่ตัวพลิกสถานการณ์เลย

แต่ถ้าคิดอีกมุม!! การได้เข้ามาเสริม ก็ยังดีกว่าไม่ได้ใครเข้ามาเลย

ประเด็นที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ความกดดันและความขับเคี่ยวในตำแหน่ง

อองโตนี่ย์ มาร์กซิยาล จะเล่นแบบไหนก็ได้หรือ!? ในเมื่อมีเอดิสัน คาวานี่ มาคอยกดดัน

ลุค ชอว์ จะเล่นแบบเดิมหรือ!? ในเมื่อคนที่แย่งตำแหน่งไม่ใช่ แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ที่ยังเด็ก แต่เป็น อเล็กซ์ เตลเลส ที่ดีกรีใช้ได้และผ่านอะไรมาเยอะ

ดาบิด เดเกอา เซฟมั่วซั่วได้ใช่ไหม!? ในเมื่อ ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ท็อปฟอร์มกับเชฟฯยูไนเต็ดมาอยู่ข้างๆ

แดนกลางที่ได้สายขยัน ดอนนี่ ฟาน เดอเบ็ค มาขับเคี่ยว คิดว่า ปอล ป๊อกบา, เฟร็ด, เนมันย่า มาติช หรือ สก็อต แม็คโทมิเนย์ อยู่เฉยๆแบบไม่ขยับตัวเองได้!? ในเมื่อต้องแย่งกัน 2 จาก 3 ตำแหน่ง ซึ่งเหลือจากบรูโน่ แฟร์นันเดส

เสริมเพิ่มในตำแหน่งแนวรับ วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ประมาทได้ไหม!? ในเมื่อ อเซล ตวนเซเบ้ ก็ดูจะมีของ โดยเฉพาะในเกมกับเปแอสเช

ของแบบนี้อาจไม่ได้ชัดเจนแดงแจ๋ ประหนึ่งศักยภาพพุ่งปรี๊ดทีเดียว แต่เรื่องแรงกระตุ้น เรื่องความกระตือรือร้น หลายครั้งมันสร้างแรงขับเคลื่อนที่ดีได้เหมือนกัน

ตัวจริงในตำแหน่งนั้นๆ อาจจะเป็นคนใหม่ หรือจะเป็นคนเก่าเวอร์ชั่นเร่งฟอร์ม แต่ที่แน่ๆคือจะได้คนที่ดีที่สุดๆ

ซึ่งถ้าแมนฯยูสามารถรักษาการเล่นกันแบบมีความทุ่มเทสุดขีด มีความกระตือรือร้นที่สุดกู่ มีสมาธิที่เต็มเปี่ยม อะไรๆมันก็ไม่แน่เหมือนกัน

เส้นทางข้างหน้า จะติด TOP 4 หรือไม่ติด จะตกรอบแชมเปี้ยนส์ลีกตอนไหน!! จะเป็นยังไงไม่มีใครรู้ 
 

แต่อย่างน้อยๆก็ทำให้แมนฯยูไนเต็ดไม่ใช่ทีมที่ใครจะมองข้ามหัวกันง่ายๆ........