แอตฯ มาดริด : เต็งสามลุ้นคำรามต่อ
แอตฯ มาดริดกับแชมป์ลาลีก้า สเปน เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครคิด ด้วยพวกเขาเป็นรอง 2 ยักษ์ เรอัล มาดริดและบาร์เซโลน่า อยู่มากมาย
แน่นอนว่าเส้นทางแชมป์ของตราหมี ก็คงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
แม้จะตุนแต้มนำบาร์เซโลน่ากับเรอัล มาดริดมาซะขาดในช่วงแรกก็ตาม ด้วยผลงานชนะ 16 เสมอ 2 แพ้ 1 จาก 19 นัดลีก
ทำให้แอตฯมาดริดที่แม้จะเตะน้อยกว่าใครๆ 1 นัด แต่คะแนนกลับนำบาร์เซโลน่าและเรอัล มาดริดถึง 10 คะแนน
แต่ความพีคขั้นสุดไม่เคยยืนยาว ว่าแล้วแอตฯมาดริดที่ฟอร์มแรงมาตลอด ก็แกว่งชนิดที่คิดไม่ถึง
ความแกว่งมันเริ่มตั้งแต่นัดที่ 20 ไล่มาตั้งแต่เสมอเซลต้าบีโก้ เสมอเลบานเต้ แพ้เลบานเต้ เสมอเกตาเฟ่ เสมอเบติส จวบจนแพ้ บิลเบา 1-2 ในนัดที่ 33
ในช่วงเวลาเดียวกันกลับเป็นบาร์เซโลน่าที่ร้อนแรงไม่หยุดหย่อน ชนะ 13 จาก 15 เกมลีก โดยแพ้ครั้งเดียว
คราวนี้แต้มในกระเป๋าที่แอตฯมาดริดเคยตุนไว้เยอะแยะ ก็ถึงเวลาเอาไม่อยู่
ความพ่ายแพ้ต่อบิลเบา ทำให้แอตฯมาดริด (73 แต้ม) มีโอกาสโดนบาร์เซโลน่า (71 แต้ม) แซงขึ้นจ่าฝูง หากบาร์เซโลน่าชนะกรานาด้าในเกมตกค้างกลางสัปดาห์
ทว่าบาร์เซโลน่าพลิกแพ้กรานาด้า 1-2 หน้าตาเฉย ทั้งที่ช่วงที่บาร์เซโลน่านำ 1-0 พวกเขามีโอกาสลุ้นเบิกเม็ด 2 และ 3 เพื่อตอกฝาโลงกรานาด้าได้
พอทำไม่ได้ กลับเจอทีเด็ดกรานาด้าลงโทษในช่วงครึ่งหลัง พลิกแซง 2 ลูก
แต่โอเคในเมื่อบาร์เซโลน่ายังแซงไม่ได้ ทว่าระยะห่างแค่ 2 แต้มเท่านั้น โอกาสบาร์เซโลน่ายังมี
นัดที่ 35 ที่บาร์เซโลน่าเจอแอตฯมาดริดตรงๆ ถ้าบาร์เซโลน่าชนะเท่ากับแซง แต่พอเจอกันจริงๆต่างฝ่ายต่างก็ทำเกมใส่ ผลัดกันออกหมัด อยู่ที่ว่าใครจะโดนก่อน
สุดท้ายไม่มีใครโดนใคร จบที่เสมอ 0-0 ซึ่งแม้แอตฯมาดริดจะเป่าปากว่ารอดไปอีกครั้ง แต่นั่นก็แค่ชั่วคราว
เพราะเรอัล มาดริด (74 แต้ม) รอเสียบตำแหน่งจ่าฝูงด้วยเฮดทูเฮดที่ดีกว่า แอตฯมาดริด (77 แต้ม)
แค่เรอัล มาดริดชนะเซบีญ่าในนัดที่ 35 จ่าฝูงจะเปลี่ยนมือทันที
ทว่าราชันกลับเจอฤทธิ์เซบีญ่า ทำเอาเกือบแพ้ ก่อนมาไล่ตีเสมอ 2-2 นาที 90+4 ซะงั้น
จบนัดที่ 35 แอตฯมาดริด (77 แต้ม) ยังรอด ส่วนที่ 2 และ 3 เป็นเรอัล มาดริด (75 แต้ม) และบาร์เซโลน่า (75 แต้ม)
มาถึงจุดนี้เหมือนเดาลิขิตฟ้าออก เพราะแอตฯมาดริดสภาพจะตายๆ แต่ไม่ตายสักที จะต้องมีอันรอดพ้น แคล้วคลาดหมด
หรืออีกมุมก็คือ บาร์เซโลน่ากับเรอัล มาดริด นั่นล่ะ ที่แกร่งไม่พอ
ก็ถ้าผ่านกันมาแบบนี้ 3 นัดสุดท้ายตราหมีที่เจอ โซเซียดัด, โอซาซูน่าและบายาโดลิด ดูจิ๊บๆเลย
แม้นัดที่ 37 และ 38 จะบีบหัวใจตราหมี ต้องมาไล่แซงโอซาซูน่า 2-1 ด้วยประตูนาที 82 (เรนาน โลดี้) กับ 88 (หลุยส์ ซัวเรซ)
และตามด้วยแซงบายาโดลิด 2-1 นาที 57 (อังเคล กอร์เรอา) กับ 67 (หลุยส์ ซัวเรซ) ในนัดสุดท้าย
ทว่าชนะก็คือชนะ ส่งตราหมีเป็นแชมป์ลีก 2020/21 แบบไม่ต้องลุ้นผลคู่ใด
นอกจากชัยชนะแล้ว น่าสนตรงที่ หลุยส์ ซัวเรซ (21 ประตูในลีก) ผู้ยิงแซงคู่แข่ง 2 นัดสุดท้าย ยืนยันว่าจะอยู่ช่วยทีมตราหมี ต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ฤดูกาล
ทั้งที่เจ้าตัวมีเงื่อนไขเปิดทางให้ย้ายทีมได้อย่างอิสระ หลังจบฤดูกาล 2020/21 แท้ๆ
เมื่อบวกกับตัวเก่าเวอร์ชั่นอัพเกรดอย่าง คีร์แรน ทริปเปียร์ ฟูลแบ็ค , มาร์กอส ยอเรนเต้ กองกลาง ผู้เคยเป็น 2 ส่วนเกินจากต้นสังกัดเก่า
อังเคล กอร์เรอา ตัวรุกสำรองอดทนมาตลอด หรือแม้กระทั่ง ยานนิค การ์ราสโก้ ที่เคยมีปัญหากับทีม จนต้องถูกขายทิ้งเมื่อปี 2018 ล้วนทยอยเติบโตขึ้นอย่างมาก
แล้วตราบที่กุนซือ ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ ยังคอยบงการแอตฯมาดริดอยู่เบื้องหลัง
พวกเขายังพร้อมปั่นประสาท 2 ยักษ์ใหญ่ บาร์เซโลน่ากับเรอัล มาดริด ที่ยังไม่ลงตัวและกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ได้อีกอย่างแน่นอน
|